แอปเงินกู้เงินหลอกชาวบ้านเดือดร้อนหนัก

กู้เงินผ่านแอป ระบาดหนัก ได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่าถูกหลอกให้โอนเงินค้ำประกันเงินกู้หลักหมื่น แต่โอนไปแล้วไม่ได้เงิน แถมเร่งให้โอนเงินปลดล็อกบัญชี แก้รหัสต่างๆนาๆ โอนซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ก็ไม่ได้เงินสักบาท ต้องยอมรับว่า ในยุคภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ตกต่ำแบบนี้ มิจฉาชีพแฝงอยู่ในทุกรูปแบบ ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายไม่น้อยกว่าวันละหลายร้อยคนว่า “ถูกแอปพลิเคชันเงินกู้หลอกลวง” โดยผู้เสียหายได้แจ้งว่าได้รู้จักแอปพลิเคชันเงินกู้จากสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น เฟสบุค เว็บไซต์ รวมถึงมีการส่ง SMS มาทางมือถือ ว่าให้ลงทะเบียนกู้เงิน ส่วนใหญ่จะเสนอวงเงินกู้อยู่ในช่วง 50,000 บาท ถึง 200,000 บาท เมื่อลงทะเบียนและอนุมัติเงินกู้ตามคำขอ จะถูกโน้มน้าวให้โอนเงินค้ำประกันเงินกู้ประมาณ 10%  แจ้งว่าจะคืนเงินประกันกลับมาให้พร้อมกับเงินกู้ แต่เมื่อโอนเงินไปแล้วกลับไม่มีการโอนเงินคืนกลับมายังผู้กู้แต่อย่างใด แถมยังแจ้งว่าให้โอนเงินประกันเพิ่มขึ้นเพื่อปลดล็อครหัส ไม่เช่นนั้นไม่สามารถเบิกถอนเงินได้ จะสูญเสียทั้งเงินประกันก้อนแรกและเงินกู้  หากหลงเชื่อโอนไปอีก แอปพลิเคชันเงินกู้ก็จะหาเหตุผลอื่นเพื่อให้ผู้กู้โอนเพิ่มเข้าไปอีก จึงทราบว่าตัวเองกำลังถูกหลอก 

มีผู้เสียหายหลายคนบอกว่า ตนได้เข้าแอปพลิเคชันเงินกู้ เพราะต้องการใช้เงิน โดยให้วงเงินกู้เริ่มต้นที่ 50,000 บาท สูงสุด 1,000,000 บาท ให้ผ่อนชำระได้ 12-36 เดือน ติดต่อผ่านระบบไลน์ เมื่ออนุมัติเงินกู้แล้วก็มีการโน้มน้าวให้โอนเงินค้ำประกัน 10% ของเงินกู้ เช่น ผู้เสียหายท่านนี้ได้รับวงเงินกู้ที่ 50,000 บาท จึงต้องโอนเงินประกัน 5,000 บาท เมื่อโอนเงินแล้ว ก็ยังเบิกถอนไม่ได้ แอปพลิเคชันจะอ้างว่าได้กดรหัสผิดต้องแจ้งแก้ไขรหัสให้ผู้เสียหายโอนค่าปลดล็อคระหัสไปอีก 15,000 บาท ในแอปพลิเคชันขึ้นสถานะว่า “การถอนสำเร็จ” แต่ต้องรอคิวโอน 48 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลาก็ไม่ได้รับเงิน สอบถามไปยังแอปพลิเคชันก็พบว่าหากต้องการรับเงินไวก็ต้องจ่ายค่าลัดคิว เพราะคิวโอนเงินกู้มีจำนวนมาก หากจ่ายค่าลัดคิวแล้วจะได้รับเงินภายใน 10 นาที โดยเงินทั้งหมดที่โอนไป เช่น เงินค่าประกัน เงินปลดล็อครหัส และเงินลัดคิวแล้วจะให้คืนในยอดสินเชื่อ เมื่อตนโอนเงินไปก็ยังไม่ได้รับเงิน อ้างว่าถ้ามีคนทำรายการมาก จะผลัดเลื่อนออกไปเรื่อยๆโดยไม่มีกำหนด สุดท้ายไม่ได้เงินคืนสักบาท

เมื่อชาวบ้านเขารู้ทัน มิจฉาชีพเหล่านี้ก็จะสรรหาวิธีการหลอกลวงใหม่ๆขึ้น เช่น แอบอ้างเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง ได้เข้าร่วมโครงการกับสถาบันการเงินจำนวนหลายแห่ง มีการส่งหน้าบัตรประชาชน หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ทะเบียนการค้า ฯลฯ ให้ผู้เสียหาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเอกสารเท็จ ปลอม ทั้งนั้น ให้สังเกตุง่ายๆว่าเวลาโอนเงินจะให้ผู้เสียหายโอนผ่านบัญชีบุคคลธรรมดา ไม่ใช่บัญชีบริษัทฯที่แอบอ้างแต่อย่างใด หากผู้เสียหายหลงเชื่อก็เสียเงินฟรี แต่ถ้าไม่หลงเชื่อ ไม่โอน ไม่ทำตาม ก็จะข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับผู้เสียหายต่างๆนาๆ

สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับ เงินกู้นอกระบบ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 3 อาคาร 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ถนนสาทรเหนือ เขตบางรัก กรุงเทพฯ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1599 และ 0 2255 2898 หรือที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

คอลัมนิสต์ : อาจารย์พิพัชร์สร เสนาธรรมรักษ์ ประธานเครือข่ายทนายสายด่วนและที่ปรึกษาอาวุโสด้านกฎหมาย